
เครื่องหมายการค้า ต่างกับ ลิขสิทธิ์ อย่างไร
เครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่ให้สิทธิแก่เจ้าของในการใช้ประโยชน์จากผลงานของตน แต่ทั้งสองประเภทมีความแตกต่างกันในด้านวัตถุประสงค์ ขอบเขตการคุ้มครอง และระยะเวลาคุ้มครอง ดังนี้
วัตถุประสงค์
- เครื่องหมายการค้า ให้ความคุ้มครองแก่สัญลักษณ์หรือตราที่ใช้เพื่อบ่งชี้ว่าสินค้าหรือบริการที่ใช้เครื่องหมายนั้นแตกต่างกับสินค้าหรือบริการที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น
- ลิขสิทธิ์ ให้ความคุ้มครองแก่ผลงานสร้างสรรค์ของมนุษย์ในด้านวรรณกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม นาฏกรรม ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง งานแพร่เสียง แพร่ภาพ หรืองานอื่นใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
ขอบเขตการคุ้มครอง
- เครื่องหมายการค้า ให้ความคุ้มครองแก่การใช้เครื่องหมายการค้ากับสินค้าหรือบริการที่จดทะเบียนเท่านั้น
- ลิขสิทธิ์ ให้ความคุ้มครองแก่การสร้างสรรค์ของมนุษย์ในด้านวรรณกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม นาฏกรรม ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง งานแพร่เสียง แพร่ภาพ หรืองานอื่นใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ โดยเจ้าของลิขสิทธิ์มีสิทธิในการใช้ผลงานของตน อนุญาตให้ผู้อื่นใช้ผลงานของตน และห้ามมิให้ผู้อื่นใช้ผลงานของตนโดยไม่ได้รับอนุญาต
ระยะเวลาคุ้มครอง
- เครื่องหมายการค้า มีอายุคุ้มครอง 10 ปี นับจากวันที่จดทะเบียน โดยสามารถต่ออายุได้คราวละ 10 ปี โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง
- ลิขสิทธิ์ คุ้มครองนับจากวันที่ผลงานเสร็จและคุ้มครองตลอดอายุของเจ้าของลิขสิทธิ์และเมื่อเสียชีวิตลงคุ้มครองต่อเนื่องไปอีก 50 ปี
ตัวอย่าง
- เครื่องหมายการค้า เช่น ตราสินค้าของสินค้าหรือบริการต่าง ๆ เช่น ตราสินค้าของสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น สบู่ ยาสีฟัน น้ำดื่ม ตราสินค้าของสินค้าอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ คอมพิวเตอร์ ตราสินค้าของสินค้าเกษตรกรรม เช่น ข้าว ผลไม้
- ลิขสิทธิ์ เช่น หนังสือ บทความ ดนตรี ภาพยนตร์ ละคร โปรแกรมคอมพิวเตอร์ สิ่งประดิษฐ์
สรุป
เครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์เป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่มีความสำคัญต่อเจ้าของผลงาน โดยเครื่องหมายการค้าให้ความคุ้มครองแก่การใช้เครื่องหมายการค้ากับสินค้าหรือบริการที่จดทะเบียนเท่านั้น ในขณะที่ลิขสิทธิ์ให้ความคุ้มครองแก่การสร้างสรรค์ของมนุษย์ในด้านวรรณกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม นาฏกรรม ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง งานแพร่เสียง แพร่ภาพ หรืองานอื่นใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ